กิน “วิตามิน” พร้อมอาหาร VS ตอนท้องว่าง ให้ผลต่างกัน ?

วิตามินมีอยู่ 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ละลายในน้ำกับละลายในไขมัน วิธีการกินวิตามิน ทั้ง 2 แบบนี้ก็ต้องมีวิธีกินที่แตกต่างกันแน่นอน จึงจะให้ผลเริ่ดที่สุด มาดูกันดีกว่าว่ากินยังไงกันบ้าง


วิตามินกลุ่มละลายในไขมัน

วิตามินเอ ช่วยในเรื่องของระบบสายตา และเสริมสร้างเนื้อเยื่อ

วิตามินอี ซึ่งดูแลเรื่องเม็ดเลือดแดงและผิวหนัง แต่นอกจากวิตามินยอดฮิตทั้ง 2 แบบ ยังมีวิตามินอื่น ๆ อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย นั่นคือวิตามินดี และเค การกินวิตามินเอและอี รวมถึงวิตามินตัวอื่น ๆ ที่ละลายได้ดีในไขมัน ควรกินหลังอาหารจะดีที่สุด เนื่องจากจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าการกินในช่วงท้องว่าง

วิตามินเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปแคปซูลนิ่ม (Soft Gelatin Capsule) เมื่อกลืนเข้าไป เปลือกแคปซูลนิ่มจะแตก วิตามินก็จะละลายไปกับไขมันในอาหารแล้วดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

วิตามินเสริมอย่าง Co Q10 ก็ควรกินหลังอาหาร เนื่องจากจะสามารถดูดซึมได้ดีขึ้น พร้อมกับไขมันในอาหารที่คุณรับประทานเช่นกัน


วิตามินกลุ่มละลายในน้ำ

วิตามินซี ที่สาว ๆ ชอบทานเผื่อให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่ง ยังช่วยป้องกันไข้หวัดได้ด้วย จะกินช่วงไหนของวันก็ได้ แต่ควรกินในเวลาเดียวกันอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ วัน จะได้ผลมากที่สุด

วิตามินบีรวม วิตามินบีมีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติต่างกันออกไป เช่น วิตามินบี 1 ช่วยบำรุงประสาท วิตามินบี 2 ช่วยบำรุงผิวพรรณ วิตามินบี 3 ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และดูแลเรื่องระบบย่อยอาหาร วิตามินบี 5 ช่วยให้ลดความตึงเครียด วิตามินบี 9 หรือกรดโฟลิก ช่วยชะลอการหงอกของเส้นผมและบำรุงผิวพรรณ ฯลฯ ซึ่งเราควรกินวิตามินบีรวมโดยไม่แยกชนิด เพราะจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่า ส่วนเวลาในการกินนั้นควรเป็น 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร เพราะร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้ทีที่สุด

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น หรือ Grape Seed สามารถกินพร้อมน้ำเปล่าเวลาไหนก็ได้ แต่ควรเป็นเวลาเดียวกันกับที่กินในทุก ๆ วัน