เมนูลดน้ำหนัก ด้วย Whole Eggs

เมื่อกลัวว่าจะมีคอเลสเตอรอลสูงไข่ทั้งฟองก็กลับมาอีกครั้ง แม้ว่าการบริโภคไข่ในปริมาณมากจะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่“ ไม่ดี” ในบางคน แต่ก็เป็นอาหารที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งหากคุณต้องการลดน้ำหนัก มีโปรตีนและไขมันสูงและอิ่มตัวมาก (1 แหล่งที่เชื่อถือ 2 แหล่งที่เชื่อถือได้) การศึกษาหนึ่งในผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน 30 คนแสดงให้เห็นว่าการกินไข่เป็นอาหารเช้าแทนเบเกิลช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม (อิ่ม)

และทำให้ผู้เข้าร่วมรับประทานอาหารน้อยลงใน 36 ชั่วโมงถัดไป (3 แหล่งที่มาที่เชื่อถือได้) การศึกษาอีกแปดสัปดาห์พบว่าไข่สำหรับอาหารเช้าช่วยเพิ่มการลดน้ำหนักในอาหารที่ จำกัด แคลอรี่เมื่อเทียบกับเบเกิล (4 แหล่งที่เชื่อถือได้) ไข่ยังมีสารอาหารหนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่อและสามารถช่วยให้คุณได้รับสารอาหารทั้งหมดที่คุณต้องการในอาหารที่ จำกัด แคลอรี่ ที่น่าสนใจคือสารอาหารเกือบทั้งหมดที่พบในไข่แดง

เมล็ดเจีย ตัวช่วยลดน้ำหนัก

สาวกคนรักสุขภาพต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีว่า เมล็ดเจีย นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับใครที่ไม่เวลาพาตัวเองเข้าไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส เพราะสุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ ถ้าอยากได้ต้องทานเอง นั่นเป็นเหมือนสโลแกนที่ทำให้ใครต่อใครต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพกันอย่างเข้มข้น เป็นเพราะว่าทุกวันนี้การใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก งานเยอะ ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ปล่อยให้ร่างก่ายอ้วนฉุดูไม่ดี

“เมล็ดเจีย” หรือ “เมล็ดเชีย” เป็นธัญพืชที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเม็ดแมงลัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าจะมีสีออกดำคล้ายๆ กันแต่ เมล็ดเจีย มีขนาดเล็กกว่ามาก เชื่อกันว่าธัญพืชชนิดนี้เป็นอาหารหลักของชาวแอชแท็กโบราณและชาวมายา ซึ่งคุณประโยชน์ที่ได้ไม่ได้เล็กไปตามขนาดของมัน ให้พลังงานสูง ซึ่งชาวโบราณนิยมรับประทาน เมล็ดเจีย ก่อนออกไปทำศึกสงคราม หรืออาจเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก ในปัจจุบัน เมล็ดเจีย กำลังได้รับความนิยมจากผู้ที่ห่วงใยในสุขภาพ และหันมาออกกำลังกายเพื่อรักษารูปร่างให้ดูเป๊ะ เป็นหนึ่งในสูตรอาหารสำหรับลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาพาทำความรู้จักกับธัญพืชชนิดนี้ให้มากขึ้นกัน

เมล็ดเจียกินกับอะไรดี

เมล็ดเจียสามารถรับประทานได้ทั้งแบบอาหารคาว อาหารหวาน หรือจะประยุกต์ทำเป็นเครื่องดื่มได้ อาจใส่ทานกับสลัดผัก สปาเก็ตตี้ หรือพิซซ่า ตลอดจนโรยตกแต่งหน้าไอศกรีม โยเกิร์ต ซีเรียลอาหารเช้า หรือแม้กระทั่งใส่ในน้ำผลไม้ ชา กาแฟได้อีกสารพัดตามความชอบ

ค่าทางอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดเจีย

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คุณค่าทางอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดเจียสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ แต่นั่นต้องทำไปพร้อมกับการออกกำลังกาย และทำจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ

  • ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
  • ช่วยให้บาดแผลหายเร็ว ไม่ติดเชื้อจากบาดแผลง่าย
  • ช่วยให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานประเภท 2
  • ช่วยบำรุงสมองและความจำ
  • ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น
  • ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้เป็นปกติ
  • ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น พุงไม่ป่อง ท้องไม่ผูก
  • ช่วยให้อารมณ์ของเราดีขึ้น
  • ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย (ช่วยให้หน้าเด็ก)

อะโวคาโด ตัวช่วยดีๆของคนรักสุขภาพ

อะโวคาโด นั้นถือว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มากและไม่มีการสร้างน้ำตาลหรือการทานแล้วเพิ่มความอ้วนแต่อย่างใดถึง อะโวคาโด นั้นจะเป็นผลไม้ที่มีไขมันแต่มันก็เป็นไขมันที่ดีและมีประโยชน์ต่องร่างการเราเอามากเลยทีเดียว เป็นไขมันที่ร่างกายของเรานั้นต้องการและไม่นำเอาไปเก็บสะสมให้เป็นไขมันใต้ผิดหนังแต่อย่างใด งันวันนี้เรามาทำความรู้จักเจ้า อะโวคาโด ให้มากขึ้นกันดีกว่า

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีผิวที่มีลักษณะขรุขระ เปลือกหนา มีสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจัดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือดำ เนื้ออะโวคาโดจะมีลักษณะเป็นครีม อ่อนนุ่ม มีรสชาติคล้ายเนย

สารอาหารของอะโวคาโด

อะโวคาโดมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ เช่น

– วิตามินอี บำรุงผิวพรรณ ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด

– สารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชราภาพ ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

– โพแทสเซียม ลดความดันโลหิต

– โฟเลท ลดความดันโลหิต

– วิตามินเอ บำรุงสายตา

– วิตามินบี แก้อาการเหน็บชา

– วิตามินซี ป้องกันโรคหวัด บำรุงฟัน

– กรดไขมันดี ชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับน้ำมันมะกอก ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันโรคหัวใจได้

– สารแคโรทีนอยด์ต่างๆ ถึง 11 ชนิด โดยจะพบมากบริเวณเนื้อที่เป็นสีเขียวเข้มที่ติดกับใต้เปลือก

เป็นต้น

คุณประโยชน์ ถั่วอัลมอนด์

อัลมอนด์ อ้วนไหม ? คงเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนคงสงสัย เพราะถ้าดูตามปริมาณไขมันในถั่วชนิดนี้ต่อ 100 กรัมแล้ว คุณอาจจะต้องตกใจ เพราะมันมีไขมันมากถึง 49.42 กรัม (เยอะมาก) แต่น่าประหลาดใจที่มันสามารถช่วยลดน้ำหนักและความอ้วนได้จริง ๆ หากรู้จักรับประทานในปริมาณเหมาะสมและสม่ำเสมอ โดยจากการศึกษาของ International Journal of Obesity พบว่าผู้ที่รับประทานอัลมอนด์วันละ 70 เมล็ดอัลมอนด์จะช่วยลดรอบเอวได้ถึง 7 นิ้ว !! ซึ่งมากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานถึง 2 นิ้ว ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการรับประทานอัลมอนด์จะช่วยลดการทานจุบจิบหรือขนมขบเคี้ยว และลดระดับไขมันเลวได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของอัลมอนด์

  1. อัลมอนด์มีประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  2. ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
  3. ประโยชน์ของอัลมอนด์ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
  4. ช่วยบำรุงระบบประสาท และช่วยเพิ่มสติปัญญาและสมาธิให้มากขึ้น
  5. ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
  6. ช่วยเสริมสร้างเซลล์และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ฯลฯ
  7. การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายได้ถึง 50%
  8. ในเปลือกอัลมอนด์มีฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่สามารถทำงานร่วมกับวิตามินอี ในการช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (งานวิจัยจาก Tufts University)
  9. ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
  10. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 30-50% เพราะช่วยในการหลั่งอินซูลินหลังอาหาร ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดที่เพิ่มขึ้นถูกดูดซึมเก็บไว้ที่ตับและเนื้อเยื่ออื่น ๆ จึงมีผลทำให้สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุนั้นจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการออกกำลังกายเป็นพิเศษวัยสูงอายุ เป็นวัยที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีการเสื่อมสภาพ เนื่องจากร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งยังพบว่าบางรายมีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจร่วมด้วย ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา สามารถป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งต้องกระทำอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือปัญหาอื่นที่เกี่ยวกับสุขภาพ ก่อนออกกำลังกายอาจต้องปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อน ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว

การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่

  1. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (แอโรบิค)
  2. เพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ เป็นการออกกำลังกายฝืนแรงต้าน
  3. เหยียดยืดข้อต่อส่วนต่าง ๆ ป้องกันอาการข้อยืดติด
  4. ฝึกการทรงตัว

การออกกำลังกายของผู้สูงอายุ ช่วยชะลอความเสื่อมของระบบต่าง ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้กับกล้ามเนื้อ ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้มีความสมดุล ในบางครั้งยังช่วยให้ผู้สูงอายุได้เข้าสังคม กรณีออกกำลังกายนอกบ้าน จึงเป็นผลดีต่อสภาพจิตใจโดยตรง ประโยชน์ของการออกกำลังกายมีอยู่หลากหลาย สรุปได้ดังนี้

ประโยชน์ของการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ

  1. ช่วยชะลอความชรา
  2. ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี
  3. กล้ามเนื้อแข็งแรงและทนการทำงานได้นานขึ้น
  4. กล้ามเนื้อและข้อต่อยืดหยุ่นดีขึ้น
  5. การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ มีการประสานกันดีขึ้น
  6. ช่วยเรื่องการทรงตัว
  7. เพิ่มภูมิต้านทาน
  8. ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
  9. ช่วยลดน้ำหนักตัว
  10. ช่วยลดความเครียด
  11. ทำให้นอนหลับพักผ่อนดี

สำหรับการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ มีข้อควรระวังมากกว่าวัยอื่น เนื่องจากเป็นวัยที่กล้ามเนื้ออ่อนแอกว่าวัยอื่น การทรงตัวอาจทำได้ไม่ดีเท่ากับวัยอื่น และที่สำคัญผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายโดยตรง

การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ

ก่อนการออกกำลังกายผู้สูงอายุควรสำรวจสภาพร่างกายของตนเองให้ดีก่อน หากมีโรคประจำตัวควรพบแพทย์เจ้าของไข้เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพราะบางโรคอาจกำเริบได้เมื่อออกกำลังกาย เช่น โรคความดันโลหิต ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นเมื่อออกกำลังกาย จึงต้องควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติก่อน จึงจะเหมาะสมต่อการออกกำลังกาย นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายด้วยท่าง่าย ๆ เพื่อป้องกันอันตราย การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ สรุปได้ดังนี้

  1. ควรตรวจสุขภาพก่อนการออกกำลังกาย
  2. หลีกเลี่ยงท่าออกกำลังกายที่มีการเกร็งหรือเบ่งมากเกินไป ในบางรายอาจทำให้ความดันสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะท่าที่ทำให้ต้องกลั้นหายใจ
  3. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีการปะทะ การแข่งขัน เพราะอาจเกิดอันตราย

สาธิตท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงอายุ โดยสามารถบริหารได้ด้วยตัวเอง

1. ท่าบริหารข้อนิ้วมือ

  • ยกมือขึ้นระดับหน้าอก
  • กำนิ้วมือแล้วแบออก โดยพยายามแบออกให้เต็มที่ เพื่อบริหารข้อนิ้วมือ
  • กำแล้วแบสลับกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกเมื่อย

หมายเหตุ สามารถทำที่บ้านได้ หรือทำขณะนั่งดูโทรทัศน์ก็ได้ หากยกแขนขึ้นให้มืออยู่บริเวณเท่ากับไหล่ จะช่วยบริหารแขนและหัวไหล่ไปด้วย เพราะมีการเกร็งแขนและหัวไหล่

2. ท่าป้องกันหัวไหล่ติด

  • ยกแขนข้างใดข้างหนึ่งขึ้น ให้แขนแนบติดใบหู (หากไม่สามารถยกให้ติดใบหูได้ เป็นสัญญาณว่าไหล่เริ่มติด ให้ใช้มืออีกข้างช่วยดัน)
  • เหยียดให้เต็มที่
  • เมื่อรู้สึกเมื่อยให้คลายออกแล้วเหยียดอีกครั้ง ทำไปเรื่อย ๆ
  • ทำเหมือนเดิมกับแขนอีกข้าง

3. ท่าบริหารข้อมือ

  • ยกแขนขึ้นมา
  • กำมือแล้วหมุน
  • หมุนไปข้างหน้าและหมุนกลับ

ออกกำลังกายลดต้นขา

สำหรับสาวที่กำลังมองหาท่าออกกำลังกายที่ช่วงลดสัดส่วนเฉพาะทางนั้นและยิ่งถ้าเป็นต้นขาแล้วละก็ต้องลอง 4 ท่านี้ที่เราจะมามองกันเลยใส่กางเกงขาสั้นก็ไม่มั่นใจ กลัวเห็นต้นขาใหญ่ เซลลูไลต์ปลิ้น ไม่ได้การละ มาเริ่มปฏิบัติการออกกำลังกายลดต้นขา ลดขาใหญ่ ให้ขาเรียวสวย ได้รูป มั่นใจทุกย่างก้าวไปเลย

ท่าที่ 1 เริ่มต้นกระชับต้นขาแบบง่าย ๆ 

วิธีทำ

  1. นอนราบกับพื้น แล้วยกขาสองข้างขึ้นให้ตรงเสมอกัน
  2. จากนั้นให้ย่อขาลงมาสองข้างพร้อมกัน เข่าแบะออก ให้ส้นเท้าชิดกัน เกร็งไว้เล็กน้อยจะยิ่งเพิ่มความกระชับได้ดีขึ้น

ทำจำนวน : 10 ครั้ง 5 เซต อ่านต่อได้ที่

ท่าที่ 2 เพิ่มความยืดหยุ่น เลือดไหลเวียนดี ขาเรียวสวย

วิธีทำ

  1. นอนราบกับพื้น ยกขาสองข้างขึ้นให้ตรงเหมือนในท่าแรก
  2. จากนั้นให้อ้าขาออกกว้าง ในขั้นตอนนี้ขายังยืดตรงอยู่นะคะ ถ้าใครไม่ไหวก็ให้อ้าน้อย ๆ ก่อนได้ แล้วค่อย ๆ เพิ่มในครั้งต่อไป จากนั้นให้กลับไปทำซ้ำข้อ 1

ทำจำนวน : 10 ครั้ง 5 เซต

ท่าที่ 3 เพิ่มความแข็งแรง ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ ให้ครบ

วิธีทำ

  1. นอนราบกับพื้น ยกขาสองข้างขึ้นเหยียดตรง สลับขาซ้ายและขวาให้ไขว้กันไว้ ในท่าเริ่ม
  2. ต่อมาให้สลับขาขวามาไขว้ขาซ้าย ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ โดยพยายามเกร็งขาเอาไว้ให้เหยียดตรงตลอดเวลา

ทำจำนวน : 10 ครั้ง 5 เซต

ท่าที่ 4 เพิ่มความแข็งแรง ต้นขาดูกระชับขึ้น

วิธีทำ

  1. เริ่มจากนอนตะแคงซ้าย (หรือถ้าใครอยากจะเริ่มที่ขวาก็ไม่ว่ากันจ้า) ใช้ข้อศอกเท้าหัวไว้ จากนั้นให้ยกขาซ้ายขึ้นให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วพยายามเกร็งค้างไว้อย่างน้อย 3 วินาที แต่ถ้าใครไหว 5 วินาทีไปเลยจ้า กระชับแน่นอน
  2. จากนั้นให้เอาขาลง ทำครบ 10 ครั้ง แล้วสลับไปทำขาขวา

ทำจำนวน : 10 ครั้ง 5 เซต

วิธีออกกำลังกาย สำหรับมือใหม่

สำหรับเวลานี้การออกกำลังกายนั้นถือว่าเป็นที่ยอดฮิตอย่างมากและได้รับความนิยมและสำหรับใครที่เริ่มอยากออกกำลังกายนั้นแต่ผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลยอาจเกิดความสงสัยว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี ? เพราะการออกกำลังกายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาและต้องมีวินัยเป็นอย่างมาก ซึ่งการศึกษาแนวทางสำหรับมือใหม่ด้านการออกกำลังกายนี้ จะช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการออกกำลังกาย และช่วยส่งเสริมสุขภาพจากการออกกำลังอย่างถูกวิธีได้

การออกกำลังกายส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างไร ?

มีงานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลดีต่อสุขภาพและช่วยในการลดน้ำหนัก โดยจะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รักษามวลกล้ามเนื้อและระดับพลังงานในร่างกายให้คงที่ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีงานค้นคว้าที่พบว่าการออกกำลังกายอาจช่วยทำให้สภาพอารมณ์และสุขภาพจิตดี นอนหลับได้ดีขึ้น และอาจช่วยส่งเสริมให้มีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้นอีกด้วย

คำแนะนำก่อนเริ่มออกกำลังกาย

ก่อนเริ่มออกกำลังกาย ควรปรึกษาแพทย์และเข้ารับการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้กำลังอย่างหนักและผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งการตรวจร่างกายจะช่วยให้แพทย์ตรวจพบปัญหาสุขภาพบางอย่างที่อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บขณะออกกำลังกายได้ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถวางแผนการออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยด้วย

นอกจากนี้ เพื่อการออกกำลังกายอย่างถูกต้องและส่งผลดีต่อสุขภาพ ผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายควรเตรียมตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

ตั้งเป้าหมาย ก่อนเริ่มออกกำลังกาย ควรเขียนแผนการออกกำลังกายที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ โดยอาจเริ่มด้วยการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่สามารถทำได้ แล้วค่อย ๆ ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้และแข็งแรงขึ้น ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ออกกำลังกายตามแผนที่วางไว้จนสำเร็จ รวมทั้งช่วยกระตุ้นและสร้างกำลังใจให้ตัวเองอีกด้วย

ฝึกออกกำลังกายให้เป็นนิสัย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ ซึ่งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานานจะช่วยสร้างนิสัยรักการออกกำลังกาย โดยมีงานวิจัยที่พบว่า การปรับเปลี่ยนลักษณะการใช้ชีวิตโดยหันมาดูแลสุขภาพตนเองเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว นอกจากนี้ การจัดตารางเวลาเพื่อออกกำลังกายหรือออกกำลังกายในเวลาเดิมทุกวันก็เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยเสริมสร้างการออกกำลังกายให้เป็นนิสัยในระยะยาวได้

วิธีฟิตร่างอย่างง่าย ๆ สำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลังกายใหม่ ๆ

ผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนอาจเริ่มเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและสุขภาพที่ดี ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

คาร์ดิโอ เป็นวิธีที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น โดยอาจเริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างการเดินหรือวิ่งประมาณ 20-30 นาที 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ และวัดว่าการออกกำลังกายที่ทำอยู่นั้นหนักเกินไปหรือไม่ด้วยการพูด หากสามารถพูดคุยได้ตามปกติโดยไม่หอบเหนื่อยจนเกินไปแสดงว่าออกกำลังกายอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่หากยังสามารถร้องเพลงขณะออกกำลังกายได้ ควรเพิ่มความหนักหน่วงของการออกกำลังกายให้มากขึ้น

การฝึกกล้ามเนื้อ อาจเริ่มฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยเลือกอุปกรณ์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อที่สามารถยกได้เซ็ตละ 8-12 ครั้ง แล้วค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักหรือจำนวนครั้งให้มากขึ้น และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรบริหารกล้ามเนื้อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ห้ามฝึกกล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกันติดกัน 2 วัน

การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น สถาบันอบรมผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายแห่งสหรัฐอเมริกา (The American College on Exercise) แนะนำว่าควรยืดกล้ามเนื้อแบบอยู่กับที่ครั้งละ 10-30 วินาที สัปดาห์ละ 3-7 ครั้ง ซึ่งการออกกำลังกายแบบยืดหยุ่นนี้จะช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูก ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น และลดความเสี่ยงของการหกล้มในผู้สูงอายุอีกด้วย

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกายควรอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อออกกำลังกายเสร็จก็ควรคลายกล้ามเนื้อเพื่อปรับอัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดให้กลับมาเป็นปกติด้วย

เมนูคนผอม สลัดผักอกไก่ไข่ลวก

วันนี้เรามาทำเมนูคนผอมกันดีกว่า เพราะเราจะผอม 555 วันนี้เราเป็นเมนูที่หาวัตถุดิบง่ายและวิธีทำไม่ยุ่งยากเหมาะสำหรับช่วงกักตัวหรือสำหรับคนที่ไม่อยากออกจากบ้านเพราะไวรัสโควิด – 19 นั้นเมนูนี้เหมาะมากอยู่บ้านกูต้องหุ่นดี

วิธีทำ
1.หมักอกไก่ด้วยเกลือและพริกไทยหยิบมือ
2.เอาอกไก่เข้าไมโคเวฟ 5 นาที ไฟปานกลาง หรือ นาบกระทะแล้วแต่สะดวกค่ะ
3.ต้มไข่ 4-5นาทีให้ไข่ไม่ต้องสุกมาก เยิ้มๆอร่อยย
4.ราดน้ำสลัดไข่มันต่ำหรืองาญี่ปุ่นค่ะ
5.โรยด้่วยงาหรือขนมปังเพิ่มได้ค่ะ

เมนู กราโนล่าโยเกิร์ตกับโฮลวีทปิ้ง

เมนูวันนี้ง่ายแสนง่ายมากๆและใช้วัสดุดิบค่อนข้างน้อยไม่ยุ่งยากแถมอร่อยด้วยงันวันนี้เรามาดูกันดีกว่า

วิธีทำ
1.เทโยเกิร์ตใส่ถ้วย
2.เทกราโนล่าลงไปในถ้วย
3.ใส่ผลไม้ตามใจชอบ

เมนูลดน้ำหนัก โจ๊กอกไก่ไข่ขาว

วันนี้เรามาดูเมนูที่เป็นได้ทั่งเมนูลดหนักและเป็นเมนูคีโตด้วยและเราได้ยินชื่อเราก็ต้องแอบ งง นิดๆว่ามันจะออกมาอย่างไรและวันนี้เรามาดูวิธีทำดีกว่าว่ามันจะทำอย่างไรบ้างและจะออกมาน่าตาแบบไหน

วิธีทำ
1.ใช้ไข่ขาว 3-4 ฟอง
2.ตีจนไข่ขาวขึ้นฟูเล็กน้อย
3.ใส่ไข่ขาวลงไปในหม้อตั้งไฟปานกลาง
4.เคียวจนไข่ขาวเกาะตัว
5.ใส่อกไก่ลงไป
6.รอจนไก่สุก
7.ตักใส่ชามกินได้เลยจ้า
8.ลวกไข่แดงเพิ่มได้อีก 1 ฟองนะคะ