อาหารเพื่อสุขภาพ

การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงได้

เลือกรับประทานอาหาร

ประโยชน์ที่ต้องบอกต่อของ “อาหารเพื่อสุขภาพ”

อาหารเพื่อสุขภาพ คือ ก่อนที่เราจะกินอาหารเพื่อสุขภาพเราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าอาหารเพื่อสุขภาพคืออะไร ซึ่งก็คือ อาหารที่มีสารอาหารครบทุกหมวดหมู่ถือว่ามีความจำเป็น และความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาร่างกาย จิตใจ รวมทั้งอารมณ์ การที่เราทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นั้นจะทำให้เราได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเมื่อเราได้รับสารอาหารครบถ้วนก็จะส่งผลให้ร่างกายได้รับพลัง แข็งแรงพร้อมที่จะลุยงานต่างๆได้อย่างกระปรี้กระเปร่า ที่สำคัญยังห่างไกลจากโรคร้ายแรงต่างๆ

อาหารเพื่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง

อย่างที่กล่าวไว้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพคือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งจะประกอบไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน โดยแต่ละหมู่ก็จะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป เช่น

โปรตีน ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วต่างๆ ซึ่งโปรตีนมีหน้าที่สำคัญคือช่วยในการเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
คาร์โบไฮเดรต จะได้แก่ แป้ง ข้าว ขนมปัง เป็นต้น โดยมีหน้าที่ให้พลังงาน
วิตามิน เกลือแร่ จะได้จากผัก ผลไม้ต่าง เพราะในผักมีกากใยและไฟเบอร์ที่จะช่วยในระบบขับถ่าย
ไขมัน จะเป็นจำพวกไขมันที่ได้จากพืชและสัตว์ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายของเราอบอุ่น
อาหารที่มีประโยชน์ อาทิเช่น

ไข่ไก่ เป็นแหล่งสะสมของโปรตีนคุณภาพสูง ที่ให้พลังงานแต่ไม่ทำให้อ้วน ช่วยบำรุงสายตา
ถั่ว เป็นสารอาหารที่ช่วยในการส่งผ่านออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ต่างๆของร่างกายและมีไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่ายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ที่จะได้รับ

อาหารเพื่อสุขภาพนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส มีสุขภาพจิตที่ดี เป็นต้น ซึ่งอาหารเพื่อสุขภาพเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของเราพร้อมที่จะทำกิจกรรมในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่ และต้านโรคภัยต่างๆได้เป็นอย่างดี

จะเห็นได้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพหารับประทานได้ไม่ยาก ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารเราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับร่างกาย ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ถ้าจะให้ผลดีมากกว่านี้ เราก็จะต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคอีกด้วย

งานวิจัยเผย อาหารเพื่อสุขภาพ ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเนื้อแดงและเนื้อแปรรูป

อาหารเพื่อสุขภาพ

เมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม) งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและมหาวิทยาลัยมินนิโซตา เผยแพร่ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) ระบุว่า อาหารเพื่อสุขภาพส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ส่วนอาหารอื่นๆ เช่น เนื้อแดง ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยนับว่าเป็นครั้งแรกที่นักวิจัยนำเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพมาเชื่อมโยงเข้ากับสิ่งแวดล้อม

ทีมนักวิจัยทำการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของอาหารจากโลกตะวันตกราว 15 ประเภท พบว่า ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันโรค พร้อมกับรักษาสภาพภูมิอากาศและแหล่งน้ำ

ขณะที่การบริโภคเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปเป็นสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บและมลภาวะ นักวิจัยจึงแนะนำว่าหากบริโภคอาหารที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับปานกลาง และไม่ส่งผลร้ายกับสุขภาพอย่างธัญพืชที่ผ่านการขัดสีแล้ว ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ และเนื้อไก่ที่พอจะสามารถทดแทนการบริโภคเนื้อแดงได้ จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อมไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม มีอาหารไม่กี่ประเภทที่ได้รับข้อยกเว้นจากการค้นพบดังกล่าวคือ ปลา ซึ่งเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่าค่าเฉลี่ยของอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก (Plant-based diets) และอาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่างบิสกิตหรือน้ำอัดลมส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อย แต่กลับเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

ไมเคิล คลาร์ก หัวหน้าทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกล่าวว่า “การเลือกอาหารที่ดีและสร้างความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหนทางหลักที่ผู้คนสามารถสร้างเสริมสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อมได้”

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่าข้อมูลที่มีรายละเอียดมากกว่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภค นักวางแผนนโยบาย และบริษัทผลิตอาหารเลือกสิ่งที่ดีกว่าได้ นักวิจัยจึงกำลังทำงานเกี่ยวกับฉลากอาหารที่ให้ข้อมูลทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกอาหารของผู้บริโภคด้วย

งานวิจัยเผย อาหารเพื่อสุขภาพ ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเนื้อแดงและเนื้อแปรรูป

อาหารลดน้ำหนัก อาหารเพื่อสุขภาพ

5 เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ร้านอาหารจะต้องตามให้ทัน

1.เน้นเมนูผัก รักสุขภาพ

ทุกวันนี้มีผู้บริโภคที่กินมังสวิรัติหรือวีแกนมากขึ้น แม้อาจยังไม่ได้เป็นประชากรส่วนใหญ่ แต่ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้ร้านอาหารมองข้ามคนกลุ่มนี้ไม่ได้ ดังนั้นร้านอาหารใดที่ไม่อยากพลาดโอกาสสร้างรายได้จากคนกลุ่มนี้ อาจต้องเพิ่มอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนเข้าไปในเมนูด้วย เช่น ทำซูชิเต้าหู้ เบอร์เกอร์เห็ด เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มคนเหล่านี้

อาหารคลีน

2.เมนูที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากท้องถิ่นนั้นๆ

เทรนด์อาหารที่มาแรงเป็นอันดับต้นๆ คือ เมนูที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบท้องถิ่นนั้นๆ เช่น หากร้านอาหารของคุณตั้งอยู่ในต่างจังหวัด อาจนำของดีประจำจังหวัดนั้นๆ หรือวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้เฉพาะพื้นที่นี้เท่านั้น มาชูเป็นจุดเด่น เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าอยากเข้ามาลิ้มลองเมนูของเรา โดยอาจเลือกปรุงเป็นอาหารพื้นเมือง หรือจะประยุกต์ให้เข้ากับรสชาติที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยก็ได้ ตามคอนเซ็ปต์ของร้านอาหารเรา

อาหารพื้นบ้าน

3.เมนูง่ายๆ แต่ได้คุณประโยชน์สูง

ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาเลือกรับประทานอาหารง่ายๆ แต่ได้คุณประโยชน์สูงมากยิ่งขึ้น เช่น เมนูที่ปรุงจากผักสดที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เมล็ดธัญพืชหรือว่าวัตถุดิบที่อัดแน่นไปด้วยโปรตีน ดังนั้นร้านอาหารไหนอยากเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ ลองหันมาเพิ่มเมนูง่ายๆ ที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์มดู โดยอาจทำ Story Telling บอกที่ไปที่มา คุณประโยชน์ หรือความพิเศษของวัตถุดิบเหล่านั้น จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าอยากลิ้มลองเมนูนั้นมากขึ้น

5 เครื่องดื่มสุขภาพ

4.วัตถุดิบมาจากท้องถิ่น ได้ช่วยเหลือสังคม

ต่อยอดมาจากข้อที่แล้ว นอกจากลูกค้าจะอยากรู้ว่าวัตถุดิบที่เขารับประทานมีที่ไปที่มาจากที่ไหนแล้ว ยังอยากรู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่าย สร้างประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหนด้วย ฉะนั้นเมนูไหนระบุว่า วัตถุดิบส่งตรงมาจากชุมชน หรือมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ลูกค้ายินดีจ่ายให้คุณมากขึ้นแน่นอน

5.ชูรสชาติวัตถุดิบหลัก

เทรนด์สุดท้ายที่เชฟส่วนใหญ่ลงความเห็นคือ Back to Basic เมนูที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมสั่งมากขึ้น คือเมนูที่ง่ายๆ ใช้เครื่องปรุงรสน้อยๆ เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เช่น สเต๊กเนื้อ อาจปรุงแค่เกลือและพริกไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติของเนื้อเต็มๆ คำ เป็นต้น ฉะนั้นแทนที่เชฟจะคิดค้นเมนูแปลกพิสดาร อาจลองนำเมนูง่ายๆ มาเสนอขายลูกค้าดูบ้าง เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ผู้บริโภคในยุคนี้

5 เทรน์อาหาร

จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคสมั้ยนี้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เลือกมากขึ้น ใส่ใจมากขึ้น รวมถึงขั้นตอนการเลือกสรรวัตถุดิบ ต้องมีที่มา ที่ไป บทความนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ประกอบการร้านอาหารหรือคนทั่วไปยังสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย การทำอาหารให้กับครอบครัวหรือคนที่เรารักทาน เพราะแสดงออกถึงความใส่ใจในทุกๆรายละเอียดขั้นตอน และนี่ก็เป็น 5 เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ ที่เรานำมาฝากกันค่ะ

8 วิธีการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีต่อกายควบคุมน้ำหนัก

--8-วิธีการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีต่อกายควบคุมน้ำหนัก---feat

การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของสุขภาพได้ ลองตั้งเป้าหมายที่จะควบคุมน้ำหนักมาสัก 6 -8 ข้อ โดยมีเป้าหมายที่จะกินอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้อย 1 ข้อในหนึ่งสัปดาห์ และต้องทำติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ขึ้นไป

พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดี ลดน้ำหนัก

พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดี

1.กินผักและผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่ง

เลือกรับประทานผักสีแดง ส้ม และเขียวเข้ม อย่างเช่น มะเขือเทศ มันหวาน และบล็อกโคลี่ หรือผักอื่นๆในมื้ออาหาร รวมถึงเพิ่มการกินผลไม้ในอาหารจานหลัก เครื่องเคียง หรืออาจจะรับประทานเป็นของหวานก็ได้ เพราะไม่เพียงแค่จะช่วยให้อาหารมีสีสันที่น่ารับประทานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารต่างๆที่ร่างกายต้องการได้รับอีกด้วย

2.เปลี่ยนการกินธัญพืชขัดสีมาเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด

เป็นเรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนการรับประทานธัญพืชขัดสีมาเป็นธัญพืชเต็มเมล็ดให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เลือกรับประทานขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังขาว โดยคุณสามารถเลือกได้ด้วยการอ่านส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่าธัญพืชเต็มเมล็ด (Whole-grain) หรือคำอื่นๆ เช่น โฮลวีท (Whole wheat) ข้าวกล้อง (Brown rice) บัลเกอร์ (Bulgur) บักวีต (Buckwheat) ข้าวโอ๊ต (Oatmeal) ควินัว (Quinoa) หรือข้าวป่า (Wild rice)

เปลี่ยนการกินธัญพืชขัดสีมาเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด

3.เปลี่ยนมาดื่มนมไร้ไขมัน หรือนมไขมันต่ำ (1 %)

นมทั้ง 2 แบบนั้นมีแคลเซียมและสารอาหารที่สำคัญเหมือนกับนมทั่วไป แต่จะให้แคลอรี่และไขมันในปริมาณที่น้อยว่า

4.เลือกกินอาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ

เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก อาหารทะเล ถั่วอบแห้ง ไข่ หรือเมล็ดพืช ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นอาหารที่ให้โปรตีน โดยให้เลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่ได้ตัดไขมันออกแล้ว (ในฉลากจะมีบอกว่าตัดไขมันออกแล้ว 90% หรืออาจจะมากกว่านั้น) และเลือกรับประทานเนื้อไก่ในส่วนอก

เลือกกินอาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ ลดน้ำหนัก

5.เปรียบเทียบปริมาณของโซเดียมในอาหาร

ตรวจดูปริมาณโซเดียมในกรอบข้อมูลโภชนาการ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณของโซเดียมน้อยกว่า เช่นในซุป ขนมปัง และอาหารแช่แข็ง ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโซเดียมจำนวนมาก ดังนั้นจึงควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าโซเดียมต่ำ (Low sodium / Reduce sodium) หรือไม่ใส่ผลิตภัณฑ์ให้ความเค็ม (No-salt added)

6.ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน

โซดา เครื่องดื่มชูกำลัง และเครื่องดื่มเกลือแร่ เป็นเครื่องดื่มที่มีการใส่น้ำตาลและให้แคลอรี่ที่สูง ดังนั้นคุณควรหยุดหรือลดการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ หรือไม่ก็ลองนำมะนาวสไลด์ แตงโม หรือน้ำผลไม้คั้น 100% มาผสมลงในน้ำเปล่า เพื่อที่จะให้ได้รสชาติของผลไม้ในน้ำดื่มของคุณ

ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน

7.กินอาหารทะเล (บางชนิด)

อาหารทะเลให้สารอาหารประเภทโปรตีน แร่ธาตุ และโอเมก้า 3 (เป็นไขมันที่ดีต่อหัวใจ) ในวัยผู้ใหญ่ควรรับประทานอย่างน้อย 8 ออนซ์ต่อสัปดาห์ ส่วนในเด็กนั้นให้รับประทานเพียงแค่เล็กน้อย โดยอาหารทะเลที่รับประทานจะต้องมีความหลากหลาย ไม่ใช่รับประทานเพียงชนิดเดียว เช่น อาหารทะเลประเภท ปลา (แซลมอน ทูน่า ปลาเทราท์ ฯลฯ) และสัตว์น้ำที่มีเปลือก (ปู หอยแมลงภู่ หอยนางรม ฯลฯ)

8.เลิกกินอาหารที่มีผลึกไขมัน

บริโภคอาหารที่มีผลึกไขมันให้น้อยลง จากการศึกษากับชาวอเมริกันพบว่าอาหารประเภท พิซซ่า เค้ก คุกกี้ ขนมหวานต่างๆ (ที่มักจะมีส่วนผสมของเนย เนยเทียม หรือเนยขาว) เนื้อสัตว์ที่มีไขมัน (เช่น ไส้กรอก ฮอตดอก เบคอน เนื้อซี่โครง) และไอศกรีมเป็นอาหารที่มีปริมาณของผลึกไขมันสูง

เลิกกินอาหารที่มีผลึกไขมัน ลดน้ำหนัก

สิ่งที่ควรลองทำ

เน้นการรับประทานผักและผลไม้

  • ผสมผักลงไปในมื้ออาหาร เช่น ใส่ผักโขมลงไปในพาสต้า หรือใส่พริกลงในทาโก้
  • รับประทานผักและผลไม้แบบสด แช่แข็ง หรือบรรจุกระป๋องก็ได้ เพราะไม่ว่าจะรับประทานในรูปแบบไหนก็ได้สารอาหารที่ดีเช่นกัน แต่ต้องตรวจดูที่ฉลากของผลิตภัณฑ์ในเรื่องของปริมาณโซเดียม และการบรรจุผลไม้ว่าเป็นการบรรจุในน้ำเปล่า หรือในน้ำผลไม้ 100% (ไม่ใส่น้ำเชื่อม)
  • จัดมื้อกลางวันของเด็กๆให้มีผักและผลไม้ด้วย เช่น แอปเปิลหันชิ้น กล้วย หรือแครอท
เน้นการรับประทานผักและผลไม้

ขนมเพื่อสุขภาพ

  • หั่นผัก ผลไม้ เช่น แครอท พริก หรือส้ม แช่เก็บไว้ในตู้เย็น
  • สอนให้เด็กๆรู้ถึงความแตกต่างระหว่างขนมที่ควรรับประทานในทุกวัน เช่น ผัก ผลไม้ และขนมที่ควรรับประทานเป็นครั้งคราว เช่น คุกกี้ หรือลูกอม
  • ทำน้ำดื่มให้เป็นขนม โดยให้ลองนำมะนาวสไลด์ หรือน้ำผลไม้คั้น 100% มาผสมลงในน้ำเปล่า
  • เปลี่ยนกล่องคุกกี้ให้เป็นตะกร้าผลไม้

ลดไขมัน เกลือ และน้ำตาล

  • เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยวิธีการการอบ หรือย่างแทนการทอด
  • ดื่มเครื่องที่ไม่มีไขมัน หรือนมไขมันต่ำแทนการดื่มโคลา หรือน้ำหวาน
  • รับประทานผลไม้เป็นของหวานในทุกๆวัน เช่น พายแอปเปิล พายลูกแพร หรือสลัดผลไม้
  • อ่านฉลากของอาหาร ตรวจสอบปริมาณของโซเดียม
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่เกลือเพิ่ม และให้เลือกการปรุงรสด้วยสมุนไพรและพริกแทน
ควบคุมปริมาณอาหาร ลดน้ำหนัก

ควบคุมปริมาณอาหาร

  • ใช้ภาชนะใส่อาหารขนาดเล็กเพื่อควบคุมปริมาณของอาหาร
  • ไม่ต้องรับประทานให้หมดจาน ถ้าหากว่าอิ่มแล้วใช้วิธีการเก็บไว้รับประทานในวันต่อไป
  • ปริมาณของอาหารที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และกิจกรรมที่ทำของแต่ละบุคคล

การกินอย่างสุขภาพดีที่โรงเรียน

  • นำขนมเพื่อสุขภาพแทนการนำขนมหวานไปโรงเรียนเมื่อมีงานวันเกิด หรือกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ
  • ทำกล่องอาหารกลางวันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ด ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ
  • ให้ความรู้กับคนทำครัวของโรงเรียน เพื่อเปลี่ยนแปลงอาหารกลางวันให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น

เคล็ดลับการจัดการกับน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณแคลอรี่

ถ้าคุณทำตามเป้าหมายทั้ง 8 ข้อที่ได้กล่าวมาข้างบน นั่นก็สามารถช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ต้องการได้อย่างครบถ้วน และนี่คือเคล็ดลับบางส่วนที่คุณจะต้องจำไว้ให้ขึ้นใจถ้าคุณต้องการที่จะจัดการกับน้ำหนักของคุณ

จัดการกับน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณแคลอรี่

1. ควบคุมปริมาณแคลอรี่

คำนวณหาปริมาณของแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวันของคุณเป็นขั้นตอนแรกของการจัดการกับน้ำหนัก ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนการ วิเคราะห์ ติดตามการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายได้

2. รับประทานอาหารให้อร่อย แต่เป็นปริมาณที่ไม่มาก

ใช้เวลาในการรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยให้เต็มที่ เพราะถ้าหากคุณรับประทานอาหารเร็วเกินไป หรือให้ความสนใจกับสิ่งอื่นไปด้วย อาจทำให้คุณได้รับแคลอรี่ในปริมาณที่มากจากการรับประทานอาหาร ดังนั้นให้มุ่งความสนใจไปยังการทำท้องที่หิวให้อิ่มซะก่อน รวมถึงให้คอยเตือนตัวเองว่ากินไปเท่าไหร่และควรหยุดกินเมื่อไหร่

3. กะปริมาณของอาหาร

คำนวณดูให้ดีว่าคุณควรรับประทานอาหารในปริมาณเท่าไหร่ เช่น หนึ่งชาม หนึ่งจาน หรือหนึ่งแก้ว ในเวลาของมื้อเย็นควรหลีกเลี่ยงการทำอาหารมื้อใหญ่ หรือสั่งอาหารชุดใหญ่ ให้เลือกรับประทานให้ปริมาณที่ไม่มาก และห่อเก็บไว้สำหรับมื้อถัดไปหากรับประทานไม่หมด

4. ออกกำลังกาย

การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณจัดการกับน้ำหนักได้ โดยในวัยรุ่นช่วงอายุ 6 – 17 ปี ต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 60 นาที หรือการเดิน 12,000 ก้าว ในวัยผู้ใหญ่ช่วงอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องออกกำลังกายอย่างนี้ 30 นาที หรือเป็นการเดิน 8,500 ก้าวต่อวัน

ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก

อาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

  1. สะอาด: ล้างมือ อุปกรณ์ในการทำอาหาร และเขียง ทั้งก่อนและหลังการสัมผัสกับเนื้อสด อาหารทะเล และไข่
  2. แยกส่วน: แยกอาหารที่ปรุงสุกแล้ว และยังไม่ปรุงสุกออกจากกัน
  3. ปรุงอาหาร: ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอาหาร เพื่อตรวจสอบว่าอาหารที่ปรุงสุกแล้วหรือยัง
  4. ความเย็น: หากมีอาหารเหลือ ให้วางไว้ก่อนประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำไปแช่ตู้เย็นที่อุณหภูมิ 40°F (4°C) หรือต่ำกว่านั้น
  5. ล้าง: ล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำสะอาด แม้ว่าจะไม่ได้รับประทานเปลือกด้านนอกก็ตาม

7 ขั้นตอน “ลดน้ำหนัก” สาวออฟฟิศผอมลง 8 กก. ภายใน 3 เดือน

7 ขั้นตอน "ลดน้ำหนัก" สาวออฟฟิศผอมลง 8 กก. ภายใน 3 เดือน

สาวๆ ออฟฟิศที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจนใกล้คำว่า ‘อวบระยะสุดท้าย’ แม้ไม่ได้อ้วนเผละมากมาย แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับหน้าท้องยื่น พุงใหญ่ ขาใหญ่ มีเซลลูไลต์ ไม่เฟิร์มกระชับเหมือนสาวแรกรุ่น อยากกลับไปมีหุ่นกลับมาเพรียวกระชับสวยเป๊ะ ทำยังไงดี?…(5 เมนู “อาหารลดความอ้วน” จาก “เมล็ดเจีย” )

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ไปเจอวิธีลดน้ำหนักที่น่าสนใจในโลกโซเชียล ซึ่งมีชาวเน็ตแชร์กันเยอะ เป็นวิธีและขั้นตอนการลดความอ้วนของคุณไปร์ท ผู้หญิงทำงานออฟฟิศคนหนึ่งวัย 30+ แต่เธอมีหุ่นเฟิร์มสวยเป๊ะยิ่งกว่าสาววัย 20 ต้นๆ ซะอีก

เธอบอกว่า ไม่ได้เป็นคนอ้วนมากระดับร้อยโล น้ำหนักเคยพุ่งมากที่สุดอยู่ที่ 60 กก. แต่ก็มีปัญหารูปร่างอวบ ย้วย ไม่กระชับ จึงหาทางลดน้ำหนัก ซึ่งเธอเคยพยายามลดน้ำหนักหลายรูปแบบ ทั้งอดอาหาร กินยาถ่ายวันละเกือบ 10 เม็ด จนมีอาการป่วย ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

หลังจากนั้น น้ำหนักตัวก็สวิงมาก อ้วนๆ ผอมๆ สลับไปมา รูปร่างเผละ ไม่กระชับ หน้าตาไม่สดใส ดูโทรม และน้ำหนักก็ไม่ลดลงได้เยอะอย่างที่หวัง เธอเลยเปลี่ยนวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ เป็นวิธีที่ทำให้ผอมหุ่นดีแบบยั่งยืนและมีสุขภาพแข็งแรง แถมยังสามารถลดน้ำหนักได้เพิ่มอีก 8 กก. (จาก 55 กก. เหลือ 47 กก.) ภายใน 3 เดือน

อยากรู้แล้วละสิ…ว่าเธอลดนำ้หนักยังไง? ต้องกินอะไร? ออกกำลังกายแบบไหน? ไปหาคำตอบพร้อมกันเลย…

1. ตั้งเป้าหมาย ผอมแบบสุขภาพดี

หลายคนอาจจะตั้งเป้าหมายให้ตัวเลขน้ำหนักลดลงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้ว นอกจากตั้งเป้าหมายให้ผอม หุ่นดี น้ำหนักลดลงแล้ว ก็ควรเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้มาเป็น Healthy lifestyle เพื่อที่จะได้ผอมสวยแบบสุขภาพดี ยั่งยืน ไม่โยโย่ งดการลดน้ำหนักแบบผิดๆ ที่เคยทำมาก่อน เช่น การอดอาหาร

ไปร์ทบอกว่าช่วงที่ลดน้ำหนักแรกๆ เธอใช้วิธีการอดข้าวได้เป็นสัปดาห์ๆ กินแต่น้ำ เพื่อลดน้ำหนัก รวมทั้งกินยาถ่ายทุกวัน วันละ 10 เม็ด วนเวียนอยู่แบบนี้ จนอายุล่วงเลยมาถึง 36 ปี รู้สึกไม่ค่อยมีแรง หน้าโทรม ไม่มีชีวิตชีวา ไม่สดใส รูปร่างเผละ น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ หน้าท้องบวมตลอด (มารู้ตอนหลังว่า นี่คือระบบเผาผลาญพัง)

เธอไปหารูปนางแบบหุ่นสวยมาเป็นแรงบันดาลใจตั้งเป้าหมายว่าจะต้องมีหุ่นแบบนี้ภายใน 6 เดือน แต่พอลองลดน้ำหนักตามวิธีนี้แล้ว ปรากฏว่าผ่านไปแค่ 3 เดือน เธอก็เริ่มเห็นผลที่ดีขึ้นทั้งในส่วนของสุขภาพและรูปร่าง

2. ปรับเปลี่ยนเวลานอน เวลาตื่น

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนมีอาการแบบนี้ คือ ตอนเช้าไม่อยากตื่นไปทำงาน มักจะรู้สึกว่า ลางานดีไหม? ไม่อยากไปทำงานเลย พอเลิกงานตอนเย็นถึงบ้านดึก กินข้าวแล้วนั่งเล่นเน็ตจนเที่ยงคืน เลยเที่ยงคืนไปก็มี กว่าจะนอนได้ พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายพัง ไม่สดชื่น

ควรปรับนาฬิกาชีวิตใหม่ ทั้งเวลานอนและเวลาตื่น คือ จากเดิมเคยตื่น 8 โมงเช้า (ทำงาน 9 โมงเช้า) เปลี่ยนเป็นตื่น 6 โมงเช้า หลังจากตื่นจะดื่มน้ำ 1 แก้วใหญ่ ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารเช้า ส่วนตอนเย็นพอกลับมาถึงบ้าน ให้ออกกำลังกาย และควรเข้านอนเวลา 23.00 น. หรือไม่ควรเกินเที่ยงคืน

3. เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

เข้าใจดีว่าการเป็นสาวออฟฟิศ ต้องนั่งทำงานหน้าจอวันละหลายชั่วโมง ไม่ค่อยมีเวลาเลือกกินอาหารมีประโยชน์ ส่วนใหญ่เลยมักจะกินข้าวแกงง่ายๆ ตามด้วยขนมถุง หนังไก่ทอด กล้วยทอด กินน้ำหวาน กาแฟ ชานม ชาไข่มุก ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า กินผักผลไม้น้อย ควรปรับเปลี่ยนมาใส่ใจเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ งดของทอด งดของหวาน งดของมันๆ

4. คำนวณแคลอรี

หัดคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติ ช่วงที่ลดน้ำหนัก ให้กินอาหารให้พลังงานอยู่ระหว่าง 1,300-1,500 กิโลแคลอรี ต่อมาในช่วงการรักษารูปร่าง ให้กินอยู่ที่ 1,500-1,600 กิโลแคลอรี

5. นำ้เปล่าสำคัญมาก ดื่มเยอะๆ 

ควรดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้มากเรื่องการเผาผลาญ และเรื่องผิวพรรณ และในการลดนำ้หนักช่วง 2 เดือนแรก ไม่ควรมีมื้อพิเศษ (Cheat Day) ถ้ามีแล้วเดี๋ยวตบะแตก อดไม่ได้ กลายเป็นว่าที่ทำมาทั้งหมดอาจพังไม่เป็นท่า อีกอย่างคือ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เช่น ออกงานสังคมก็ให้ดื่มได้บ้าง นานๆ ที

6. ควบคุมอาหาร 80% 

ในส่วนของการเลือกอาหารการกิน ถ้ายังไม่เห็นภาพ ลองทำตามวิธีของสาวคนนี้ดู เธอหันมาทำอาหารกินเอง เพราะควบคุมแคลอรีได้ง่ายกว่า และสามารถเลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วย อาจจะไม่ใช่อาหารคลีน 100% แต่กินแล้วไม่อ้วน วิธีปรับเปลี่ยนวิธีกินของเธอมีดังนี้

– ใช้น้ำมันสเปรย์ แทนน้ำมันจากขวด
– ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล
– งดของทอด/ของหวาน
– ลดอาหารเค็ม เพราะทำให้ตัวบวมน้ำ 
– นับแคลอรีอาหารที่กินในแต่ละวัน 
– ห้ามอดอาหารเด็ดขาด เพราะมีโอกาสโยโย่สูงมาก
– เลือกทานแป้งไม่ขัดสี
– เลือกทานไขมันดีจาก อัลมอนด์ อะโวคาโด เนยถั่ว ปลาแซลมอน
– เปลี่ยนมากินอเมริกาโน่เย็น ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ครีม
– กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าลืมผัก-ผลไม้

7. ออกกำลังกาย 20%

หลังจากตื่นนอนตอนเช้า 6 โมงเช้า ให้ออกกำลังกาย โดยเล่น AB หน้าท้องเป็นหลัก ประมาณ 15 นาที ส่วนตอนเย็น หลังเลิกงาน อย่าเพิ่งทานข้าว ให้ออกกำลังกายก่อนเลย 30-45 นาที เน้นช่วงขาและแขนเป็นหลัก รวมๆ ก็สัปดาห์ละ 5-6 วัน

มีอุปกรณ์ คือ ดัมบ์เบล 1 อัน ซึ่งใช้สำหรับออกกำลังกายตามคลิปต่างๆ ในโซเชียล เน้นบอดี้เวต ไม่เน้นคาร์ดิโอ แต่สำหรับคนที่น้ำหนักเยอะมากๆ แนะนำให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ กับบอดี้เวตควบคู่กันไป ผิวหนังจะได้ไม่ย้วย

วิธีและขั้นตอนการลดความอ้วนทั้งหมดนี้ เอาเป็นว่ามันอาจจะไม่ง่าย แต่ก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับสาวๆ ที่อยากกลับมามีหุ่นสวย เพรียว รูปร่างกระชับ ใช่มั้ยล่ะคะ?

7 ขั้นตอน “ลดน้ำหนัก” สาวออฟฟิศผอมลง 8 กก. ภายใน 3 เดือน

การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ

12 เมนูอาหารลดน้ำหนักง่าย ๆ แคลอรีต่ำอิ่มครบทั้งสามมื้อ

อาหารลดน้ำหนัก

สืบเนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นเลยอยากทำอาหารลดน้ำหนักกินเอง เพราะถ้าไปซื้อคงไม่อร่อยถูกปาก กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารลดน้ำหนักง่าย ๆ สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3388535 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีทั้งอาหารลดน้ำหนักมื้อเช้า มื้อเที่ยง และมื้อเย็น เช่น แซนด์วิชโฮลวีตอกไก่สับ แซนด์วิชสันในหมูสับ อกไก่ผัดกะปิ ผัดผักรวมใส่อกไก่ น้ำพริกปลาทู เป็นต้น รับรองอาหารอร่อยทุกเมนู และผอมลงอีกด้วย

หลายคนบอกว่าอาหารโซเดียมต่ำทำยาก วัตถุดิบแพง วันนี้มิ้นต์เอาเมนูที่ทำกินทุก ๆ วันมาแนะนำกัน เมนูง่าย ๆ ทำกินได้เรื่อย ๆ ค่ะ เริ่มเลยนะ

1. แซนด์วิชโฮลวีต+อกไก่สับไม่ใส่น้ำมัน+ไข่ดาวไม่ใส่น้ำมัน

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม แซนด์วิชอกไก่สับไข่ดาวไม่น้ำมัน

  • ขนมปังโฮลวีต
  • ไข่ดาว (ไม่ใส่น้ำมัน)
  • อกไก่สับรวน (ไม่ใส่น้ำมัน)
  • พริกไทย
  • ผักสลัดต่าง ๆ
     

วิธีทำแซนด์วิชอกไก่สับไข่ดาวไม่น้ำมัน

     1. ทำอกไก่สับรวนในกระทะไม่น้ำมัน ใส่พริกไทยนิดหนึ่ง
     2. นำขนมปังมาประกบส่วนผสมทุกอย่าง วางมั่ว ๆ ไป ห่อพลาสติกคลุมอาหารเสร็จแล้วตัดครึ่งเลย

2. ปลาซาบะทอด+ต้มยำกุ้ง+แกงจืด

อาหารลดน้ำหนัก
อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ปลาซาบะทอด

  • ปลาซาบะ
  • ผักเคียงตามชอบ
     

ส่วนผสม ต้มยำกุ้ง

  • เครื่องต้มยำ
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • มะนาว
  • น้ำปลาสูตรลดโซเดียม
  • เห็ดเข็มทอง
     

ส่วนผสม แกงจืดผักกาดขาวหมูสับ

  • ผักกาดขาว
  • สันในหมูสับ
  • กระเทียม
  • พริกไทย
  • รากผักชี
  • ซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม
  • เกลือสีชมพู
     

วิธีทำปลาซาบะทอด+ต้มยำกุ้ง+แกงจืด

     1. ปลาซาบะจากบิ๊กซี เอามาทอดด้วยหม้ออบลมร้อน แล้วก็มีผักเคียง
     2. ทำต้มยำกุ้งไว้ซดน้ำร้อน ๆ ด้วยจ้า ใส่เครื่องต้มยำ เติมน้ำตาลมะพร้าวตัดนิดเดียว ปรุงรสด้วยมะนาวกับน้ำปลา Good life ใส่เห็ดเข็มทองด้วย
     3. ทำแกงจืดผักกาดขาวหมูสับ ใช้สันในหมูสับ ตำกระเทียม พริกไทย และรากผักชี ตั้งน้ำใส่ลงไปรอเดือด ใส่หมูสับลงไป รอเดือด เติมซีอิ๊วขาว Good life เกลือชมพูนิด ใส่ผัก เสร็จจ้า

3. อกไก่ผัดกะปิ

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม อกไก่ผัดกะปิ

  • อกไก่หั่นชิ้น
  • พริกซอย
  • กระเทียมสับหยาบ
  • หอมเเดงซอย
  • ใบมะกรูด
  • ดอกกะหล่ำนิดหนึ่ง (หรือผักอะไรก็ได้)
  • กะปิใต้
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • น้ำปลาสูตรลดโซเดียม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • น้ำมันมะพร้าว
  • น้ำเปล่า
  • ใบมะกรูด
  • ไข่ต้มแบบไม่สุก
  • ผักเคียง ได้แก่ แตงกวา ถั่วฝักยาวนึ่ง ฟักทองนึ่ง
     

วิธีทำอกไก่ผัดกะปิ

     1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะพร้าว ประมาณ 3 หยด
     2. ใส่กระเทียม หอมแดง และพริก ผัดให้ตีขึ้นจมูกแล้วก็ใส่อกไก่ลงไปผัดต่อจนสุก
     3. เติมกะปิลงไปนิดหน่อย ผัดแล้วเติมน้ำเปล่า ใส่น้ำตาลมะพร้าวตัดไปให้กลมกล่อม จะเติมน้ำปลาโซเดียมต่ำลงไปด้วยก็ได้ถ้ายังไม่ชินรสจืด แต่ถ้ากินได้หมดก็ไม่ต้องเติมน้ำปลาแล้วจ้า เพราะกะปิมีความเค็มในตัวอยู่แล้วนิดหน่อย
     4. พอผัดได้ที่ตบท้ายด้วยใบมะกรูด เป็นอันเสร็จจ้า พร็อพวันนี้ แตงกวา ถั่วฝักยาวนึ่ง ไข่ต้มแบบไม่สุก และฟักทองนึ่ง แค่นี้ว่าอิ่มแล้ว แต่ยังมีตบท้ายด้วยน้ำเต้าหู้จากเซเว่นน้ำตาล 0% จ้า กินบ่อยพอสมควร ขวดกะทัดรัด อิ่มคูณ 2 ตัดกำลังสุด

4. ผัดกะเพราอกไก่

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ผัดกะเพราอกไก่

  • อกไก่
  • ถั่วลันเตา แครอต ข้าวโพด แบบแช่แข็ง
  • กระเทียม
  • พริก
  • พริกไทย
  • ซีอิ๊วดำ
  • ซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • ใบกะเพรา
  • ไข่ต้ม  
  • ผักเคียง ได้แก่ หน่อไม้ฝรั่งนึ่ง แตงกวา ฟักทองนึ่ง

วิธีทำผัดกะเพราอกไก่

     1. หากข้าวกล้องหมด จัดข้าวขาวจ้า โรยงานิดหนึ่ง
     2. ทำผัดกะเพราอกไก่ โดยใส่กระเทียม พริก พริกไทย ผัดกับอกไก่ แล้วก็ใส่ถั่วลันเตา แครอต ข้าวโพด อันนี้ซื้อแบบฟรีซมาใช้ได้นานจ้า เอาออกมาใส่ทีละหน่อย ปรุงด้วยซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว Good life มีตัดน้ำตาลมะพร้าวนิดเดียวจ้า เครื่องเคียงวันนี้มีหน่อไม้ฝรั่งนึ่ง ไข่ต้ม แตงกวา และฟักทองนิดหน่อยจ้า อิ่มเกินจะเยียวยา

5. ผัดผักรวมใส่อกไก่+ไข่คนไม่ใส่น้ำมัน

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ผัดผักรวมอกไก่

  • น้ำตาลมะพร้าวนิดเดียว
  • ซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม
  • ไข่ไก่
  • ฟักทองนึ่ง
  • มันม่วงนึ่ง

วิธีทำผัดผักรวมอกไก่

     1. ผัดผักรวมใส่อกไก่เสร็จแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าวนิดเดียวมาก ๆ ซีอิ๊วขาว Good Life
     2. ทำไข่คน โดยรวนไข่ในกระทะไม่ใส่น้ำมัน พร็อพวันนี้ มีฟักทองกับมันม่วงค่ะ เคลียร์ตู้เย็น ทำเสร็จลุกมาจัดจานตลอดเวลา องค์ประกอบของการจัดจานจะทำให้อาหารของเราดูน่ากิน และอยากทำมันอีก จริง ๆ มื้ออาหารหลักสิบด้วยซ้ำจ้า

6. แซนด์วิชสันในหมูสับ

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม แซนด์วิชสันในหมูสับ

  • ขนมปังแผ่น
  • สันในหมูสับ
  • ผักสลัด
  • ไข่ดาว
  • น้ำสลัด

วิธีทำแซนด์วิชสันในหมูสับ

      ​​​​► ทำสันในหมูสับรวนในกระทะเสร็จแล้วก็จับประกบกับขนมปังแซนด์วิช ใส่ผักสลัด ไข่ดาวไม่น้ำมัน ใส่น้ำสลัดคิวพีนิดหนึ่ง กินไม่หมดแล้วเยอะมากจ้า วันนี้มีน้ำนมถั่วเหลืองจากดอยคำด้วยจ้า อร่อยอันนี้ ผสมวุ้นมะพร้าวด้วย

7. น้ำพริกปลาทู+ปลาทูทอด+ผักเคียง

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม น้ำพริกปลาทู

  • ปลาทู 1 ตัว
  • พริก
  • กระเทียม
  • หอมแดง
  • มะนาว
  • น้ำต้มสุก
  • น้ำปลาสูตรลดโซเดียม
  • ผักเคียง ได้แก่ ฟักทองนึ่ง กระเจี๊ยบลวก ดอกกะหล่ำนึ่ง ถั่วฝักยาวนึ่ง แตงกวา เบบี้กวางตุ้งนึ่ง

ส่วนผสม ปลาทูทอด

  • ปลาทู 1 ตัว

วิธีทำน้ำพริกปลาทู+ปลาทูทอด+ผักเคียง

     1. ทำน้ำพริกปลาทู โดยเอาปลาทูไปทอดในหม้อทอดลมร้อน แกะเอาแต่เนื้อ เอาพริก กระเทียม และหอมแดง เอาไปคั่วในกระทะให้เกรียม เสร็จแล้วตำรวมกันหมดเลย เติมมะนาว น้ำต้มสุก ใส่น้ำปลา Good Life นิดหน่อย
     2. ทำปลาทูทอดด้วยหม้ออบลมร้อนเคียงอีก 1 ตัว เท่ากับว่าจัดไป 2 ตัวแล้วจ้า ผักเคียงมีฟักทอง กระเจี๊ยบลวก ดอกกะหล่ำนึ่ง ถั่วฝักยาวนึ่ง แตงกวา เบบี้กวางตุ้งนึ่ง กิน ๆ เข้าไป ผักเยอะ ๆ

8. อกไก่ทอดไข่ดาว

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม อกไก่ทอด

  • อกไก่
  • กระเทียม
  • พริกไทยดำ
  • รากผักชี  
  • ซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม
  • ไข่ดาว
  • ผักลวก

วิธีทำอกไก่ทอด

     1. ทำอกไก่ทอด หมักกระเทียม พริกไทยดำ รากผักชี  ซีอิ๊วขาว Good Life ทอดด้วยหม้ออบลมร้อนที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที
     2. เสิร์ฟกับผักลวก และไข่ดาว วันนี้มีนมอัลมอนด์น้ำตาล 1 กรัม อันนี้ก็ดีจ้า

9. ข้าวผัดทูน่าน้ำเเร่+แกงจืดไข่เจียว

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ข้าวผัดทูน่าน้ำเเร่

  • ทูน่าในน้ำแร่
  • กระเทียม
  • ผัก 3 อย่าง
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • โรยผักชี
  • พริกไทย
  • มะนาว 1 กลีบ
  • ผักเคียง
     

ส่วนผสม แกงจืดไข่เจียว

  • ไข่ไก่
  • น้ำเปล่า
  • รากผักชี
  • พริกไทยทุบ
  • ซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม
     

วิธีทำข้าวผัดทูน่าน้ำเเร่ กับแกงจืดไข่เจียว

     1. ใส่กระเทียม ทูน่า ผัก 3 อย่าง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลมะพร้าวนิดหนึ่ง จัดใส่ภาชนะ โรยผักชี พริกไทย แต่งด้วยมะนาว 1 กลีบ
     2. พร็อพเป็นเเกงจืดไข่เจียว ทำไข่เจียวไม่ใส่น้ำมันเสร็จแล้วหั่นชิ้น เตรียมไว้
     3. ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่รากผักชี พริกไทยทุบ ใส่ไข่หั่นเป็นชิ้นพอคำ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว Good Life เสิร์ฟกับผักลวก เสร็จค่ะ ง่าย ๆ

10. ไข่เจียวไม่ใส่น้ำมันกับผักสามอย่าง

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ไข่เจียวกับผักสามอย่าง

  • ไข่ไก่
  • ผัก 3 อย่าง ได้แก่ เเครอต ถั่วลันเตา ข้าวโพด
  • ซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม
  • ฟักทองนึ่งโรยงา
  • บรอกโคลี
  • ไก่นึ่งฉีก
  • ถั่วคั่ว
     

วิธีทำไข่เจียวใส่ผักสามอย่าง

     1. ทำไข่เจียวโดยตีผสมไข่กับผัก 3 อย่าง ได้แก่ เเครอต ถั่วลันเตา ข้าวโพด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว Good Life นิดเดียว
     2. เสิร์ฟกับฟักทองนึ่งโรยงา บรอกโคลี ไก่นึ่งแล้วเอามาฉีก ตบท้ายด้วยถั่วคั่วเอง 1 กำมือ กินเบอร์หลังสุด อิ่มดีมากค่ะ ทำง่ายด้วย

11. ผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่อกไก่

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่อกไก่

  • ผัดหน่อไม้ฝรั่ง
  • อกไก่
  • กระเทียม
  • พริก 1 เม็ด
  • น้ำมันหอยสูตรลดโซเดียม
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • น้ำเปล่า
  • ไข่ต้มโรยงา
  • ฟักทองนึ่ง
  • ผักสด
  • ข้าวโพดนึ่ง
     

วิธีทำผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่อกไก่

     1. ใส่กระเทียมกับพริก ผัดกับอกไก่ ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย Good Life ตัดนิดเดียวกับน้ำตาลมะพร้าวตัดหยิบเล็ก ๆ เติมน้ำเปล่า
     2. เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มโรยงา ฟักทองนึ่ง และผักสด ข้าววันนี้ ไรซ์เบอร์รีหมดติดค้างหม้อนิดเดียวเลยผสมข้าวหอมมะลินิดหนึ่ง
     3. โรยข้าวโพดนึ่ง อิ่มท้องได้อีก 1 มื้อค่ะ ทำง่ายนิดเดียว

12. ผักสลัดแซลมอนย่าง ไข่ดาวไร้น้ำมัน และข้าวโพดนึ่ง

อาหารลดน้ำหนัก

ส่วนผสม ผักสลัดแซลมอนย่าง ไข่ดาวไร้น้ำมัน และข้าวโพดนึ่ง

  • ผักสลัด
  • ไข่ดาวไร้น้ำมัน
  • ข้าวโพดนึ่ง
  • แซลมอนย่างบดเล็กน้อย
  • น้ำสลัด

วิธีทำผักสลัดแซลมอนย่าง ไข่ดาวไร้น้ำมัน และข้าวโพดนึ่ง

(อันนี้เราทำเป็นมื้อเช้าค่ะ) ใส่ผักสลัดลงในภาชนะ โปะไข่ดาวไร้น้ำมัน ข้าวโพดนึ่ง แซลมอนย่างบดเล็กน้อย ราดน้ำสลัดคิวพีนิดเดียว เสิร์ฟพร้อมนมถั่วเหลืองของดอยคำ มีน้ำตาลอ้อยธรรมชาติ 3% ส้มอีก 2-3 ลูก อยู่ท้อง

คร่าว ๆ ประมาณนี้นะคะ เผื่อใครลองเอาไปทำ เผื่อเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยจ้า หัวใจหลักสำคัญเวลาลดน้ำหนักคือกินให้ครบ 3 มื้อนะคะ แบ่งมื้อหนักมื้อเบาให้ถูก กินผักเยอะ ๆ เนื้อสัตว์ควรมี กินให้ครบ กินให้ถึง ออกกำลังกายด้วยนะคะ งดของทอดงดของมันจะดีเลยจ้า เลือกกินให้ถูกได้สุขภาพด้วยจ้า มิ้นต์ทำอาหารเเชร์ทุกวันในอินสตาแกรม weedzii_mint เผื่อใครจะไปแชร์กัน

แอบรู้สึกว่ากางเกงตัวโปรดเอวคับขึ้น ดังนั้นขอเริ่มทำเป็นอาหารเช้าก่อนเลยดีกว่า ขอกินเบา ๆ อย่างเมนูแซนด์วิชอกไก่ก่อน ส่วนมื้อเที่ยงและมื้อเย็นค่อยมาจิ้มสูตรที่ชอบอีกทีจ้า

12 เมนูอาหารลดน้ำหนักง่าย ๆ แคลอรีต่ำอิ่มครบทั้งสามมื้อ

อาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารเพื่อสุขภาพ ปี 2019 ที่น่าจับตามอง

ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนเราไม่ได้มองหาอาหารเพียงเพราะเป็นปัจจัยสี่อีกต่อไปแล้ว เพราะการเลือกรับประทานอาหารสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วย จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่จะมี ‘ฟู้ดเทรนด์’ ออกมาในแต่ละปี ต้องบอกเลยว่าเทรนด์ปี 2019 นี้อาหารที่มาแรงก็ยังต้องยกให้อาหารเพื่อสุขภาพ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก หรือการกินเพื่อสุขภาพนั่นเอง ปีนี้อะไรมาแรงบ้างตามไปดูกันเลย

จับตา Clean Label จะมาแทนที่ “Natural label”

อาหารที่ผลิตจากธรรมชาติเริ่มไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ฉลาดเลือก ฉลาดซื้อมากขึ้น เทรนด์ความนิยมสินค้าที่ติดฉลากเป็น Clean Label จึงมาแรง เพราะสินค้าประเภทนี้ต้องระบุถึงส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นั้น จะบอกแค่ว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องบอกส่วนผสมอย่างครบถ้วนว่าปราศจากสารสังเคราะห์ สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล สีและกลิ่นสังเคราะห์ รวมไปถึง ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อย ใช้ส่วนผสมเรียบง่ายจากธรรมชาติ ซึ่งอาหารเพื่อสุขภาพบางประเภทจะถึงขั้นระบุแหล่งที่มาและกระบวนการผลิตเลยทีเดียว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาอาหารเพื่อสุขภาพอย่างจริงใจ

เทรนด์ Plant Based Food กำลังมา

เพราะจำนวนผู้บริโภค Vegan มากขึ้น นิยามของ Plant Based Food คือ การรับประทานอาหารพืชเป็นหลักในรูปแบบใกล้เคียงธรรมชาติ เป็นการทานอาหารเพื่อสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์อาหารที่มาแรงตามเทรนด์นี้ มักมีส่วนประกอบหลักเป็นผลไม้ ผัก ธัญพืช ถั่ว สมุนไพร และสารสกัดจากพืช ซึ่งตอบสนองความเชื่อของผู้บริโภคว่าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชจะสามารถสร้างเสริมให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ ในปี 2019 คนจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ระบุคุณค่าทางอาหารแบบเฉพาะเจาะจงไปมากกว่าแค่คำว่า “vegan” และต่อไปจะมีการเปรียบเทียบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เพื่อซื้อมาทดลองทาน ถ้าอร่อยก็กินต่อแต่ถ้าไม่ก็มองหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ

อาหารพิเศษสำหรับคนพิเศษ

คนพิเศษในที่นี้หมายถึง การผลิตอาหารที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน เช่นเทรนด์ Personalized Diet หมายถึง อาหารเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่กำลังลดความอ้วน อย่างอาหารที่มีปริมาณแป้งและน้ำตาลน้อย เพิ่มโปรตีน ไขมันดี หรือผลิตจากผักผลไม้ เป็นต้น ส่วนเทรนด์ Personalized Nutrition ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากคนทั่วโลก เนื่องจากยอดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ทำให้เกิดการตื่นตัวกับการดูแลวิถีการกินของตัวเองมากขึ้น และผู้ผลิตต่างขยายไลน์การผลิตมาผลิต “สมาร์ทฟู้ด” เพื่อตอบสนองผู้ป่วยสูงอายุมากขึ้น

Evergreen Consumption 

รักตัวเองอย่างเดียวไม่พอ ผู้บริโภคยุคนี้ต้องรักษ์โลกด้วย จะตัดสินใจเลือกทานอาหารทั้งทีต้องรู้ถึงกระบวนการผลิตตั้งแต่ฟาร์มจนไปถึงร้านขายของขำ เพื่อแน่ใจว่ามีใช้สารพิษน้อยที่สุด การผลิตส่งผลกับทรัพยากรทางธรรมชาติหรือไม่ อย่างกระบวนการผลิตที่เลือกเหมาซื้อผัก ผลไม้ แล้วคัดเอาแต่ ผัก ผลไม้ ที่สวย ที่ไม่สวยก็คัดทิ้ง ซึ่งก่อให้เกิดขยะมากเกินจำเป็น ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะไม่ซื้อแม้จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแค่ไหน รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่เลือกใช้ต้องใส่ใจสุขภาพด้วย

กินคลีนต้องลองกับ 5 ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่พร้อมเดลิเวอรี่ถึงหน้าบ้าน

ใครที่ชอบกินอาหารเพื่อสุขภาพ หรือที่เรียกกันว่าสายคลีนเชื่อว่าในช่วงกักตัวเช่นนี้ น่าจะอดอยากปากแห้งกันชัวร์ๆ วันนี้เราเลยมีลิสต์อาหารเพื่อสุขภาพแบบครบๆ ทั้งของคาว ของหวาน ที่พร้อมส่งเดลิเวอรี่ถึงหน้าบ้าน ให้ทุกคนได้ลองสั่งมาทานกันตามใจชอบเลย

ร้านโอ้กะจู๋ สาขา โครงการเดอะพาซิโอพาร์ค กาญจนาภิเษก

นับเป็นสาขาที่ 3 ของร้านอาหารเพื่อสุขภาพชื่อคุ้นหูที่มีต้นกำเนิดมาจากฟาร์มผักเพื่อสุขภาพจากเชียงใหม่ โดยการออกแบบร้านยังคงโดดเด่นด้วยการจำลองบรรยากาศของสวนผักในพื้นที่ธรรมชาติ แต่ยังคงทัศนียภาพสวยๆ ของย่านกาญจนาภิเษกได้อย่างชันเจน ทั้งทางร้านยังมีการจัดโซน Grab and Go เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อไปกินที่บ้าน หรือที่ทำงานอีกด้วย

ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้านที่น่าลองก็จะมีตั้งแต่ซี่โครงสะพานโค้ง (345-625 บาท) ที่มีความอ่อนนุ่ม เคี้ยวง่ายละมุนลิ้น จากการอบเครื่องเทศชาวเหนือนานกว่า 8 ชั่วโมง หรือจะเป็นสลัดผักสารพัดชนิดที่รับประกันความสดใหม่ และปลอดภัยให้เลือกมาทานเพิ่มความเฮลตี้ได้อย่างอิ่มอร่อย

สั่งเดลิเวอรี่แอด Line : okj09, เบอร์โทรศัพท์ 097-921-9555, FB : สวนผัก โอ้กะจู๋

Thank God It’s Organic

ร้านอาหารที่เกิดขึ้นจากความเชื่อของกลุ่มคนที่เห็นตรงกันว่าอาหารปลอดภัยคือความยั่งยืน ซึ่งเมนูภายในร้านส่วนใหญ่จะเป็นน้ำปั่นผักผลไม้ที่ใช้วัตถุดิบอินทรีย์จากเกษตรกรรายย่อยหลายพื้นที่ อีกทั้งยังใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมั่นใจได้ถึงความสะอาด เพราะทางร้านใช้น้ำยาล้างจานจากธรรมชาติในการทำความสะอาดภาชนะทุกใบก่อนนำมาใส่น้ำปั่นส่งถึงมือลูกค้า

โดยน้ำปั่นทุกแก้วจะทำแบบสดใหม่ทุกวัน ด้วยวิธีการปั่นความเร็วสูงพร้อมกาก (Fiber) ซึ่งมีทั้งเมนูผัก 5 สี, ผลไม้, และธัญพืชต่างๆ ตามฤดูกาล แบบได้สุขภาพที่ดีเต็มๆ แต่ยังคงรสชาติของน้ำปั่นที่อร่อยโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาลเลย ทั้งนี้ทางร้านจะมีแพ็กเกจแบบส่งเดลิเวอรี่ถึงบ้านเป็นจำนวนวันตั้งแต่ 5, 20, 40, และ 100 วัน หรือจะสั่งเป็นรายครั้งก็สามารถลองคุยกับทางร้านดูได้

สั่งเดลิเวอรี่แอด Line : @tgiobkk, เบอร์โทรศัพท์ 062-654-2919, FB : Thank God It’s Organic

Jinta Homemade Icecream

ใครจะเชื่อว่ากักตัวอยู่บ้านก็หาไอศกรีมอร่อยๆ กินได้ แถมยังเป็นไอศกรีมที่ใช้วัตถุดิบปลอดสารเคมีอีกด้วย เพราะ Jinta Homemade Icecream เป็นร้านไอสกรีมโฮมเมดที่นำผลไม้สดปลูกจากธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบหลักของไอศกรีมในทุกก้อนที่เสิร์ฟให้ลูกค้าด้วยความพิถีพิถัน ทั้งยังมีความหลากหลายของรสชาติไม่ว่าจะเป็นวนิลา, ชาไทย, นมกุหลาบ, ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ

ส่วนเมนูหาทานยากของร้านคงหนีไม่พ้นรสคะน้า+สะระแหน่, ตะไคร้, ผักชี, มะระชีสเค้ก อีกทั้งน้ำตาลที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการเพิ่มความอร่อยให้ไฮศกรีมทุกลูกบนโลกนั้น ร้านนี้ยังใช้น้ำตาลจากกลุ่มเพียรตาลที่ปลอดสารเคมี และให้รสชาติความหวานจากธรรมชาติแท้ๆ ในราคาเริ่มต้นถ้วยละ 50 บาท

สั่งเดลิเวอรี่ Inbox Facebook : Jinta Homemade Icecream, หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB : Jinta Homemade Icecream

Salad Factory Thailand สาขา เมกาบางนา

ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ต่อยอดมาจากธรุกิจส่งออกผลไม้ โดยปัจจุบัน Salad Factory มีร้านกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ถึง 6 สาขา และมีบริการอาหารให้ลูกค้าได้เลือกกว่า 200 เมนู โดยทุกจานจะใช้วัตถุดิบไร้สารเคมีจากเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ทั่วภูมิภาค โดยตัวร้านสาขา เมกาบางนานั้น จะมีการตกแต่งในโทนสีเขียวทั้งเฟอร์นิเจอร์ และของประดับอย่างต้นไม้สวยๆ ที่จัดวางอยู่ทั่วร้านอย่างลงตัว

ทั้งซิกเนเจอร์หลักอย่างหนึ่งของ Salad Factory คือการที่ลูกค้าสามารถคัสต้อมเมนูสลัดผักได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชนิดของผัก, ท็อปปิ้ง, และน้ำสลัดที่มีให้เลือกถึง 18 รสชาติ และมีอาหารคาวตัดเลี่ยนอย่างขนนจีบกุ้ง(4ลูก/45บาท), ซุปเห็ดหอม(64บาท) ฯลฯ

สั่งเดลิเวอรี่แอด Line : @saladfactory, เบอร์โทรศัพท์ 061-407-9618, FB : Salad Factory Thailand

Brekkie Organic Cafe & Juice Bar

ร้านอาหารเพื่อสุขภาพใจกลางย่านทองหล่อแห่งนี้ ตั้งอยู่ในอาคารขนาด 3 ชั้นที่แบ่งเป็นโซนต่างๆ อย่างลงตัว และให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เพราะวัสดุหลักของอาคารเป็นกระจกใสที่สามารถมองเห็นภูมิทัศน์โดยรอบนอกของร้านได้อย่างชัดเจน ชวนให้เจริญอาหารได้อย่างดี

โดยเมนูส่วนใหญ่ของทางร้านจะเน้นอาหารเช้าเป็นหลัก ซึ่งมีการผสมวัตถุดิบปลอดภัย ไร้สารเคมีที่สั่งมาจากฟาร์มแบบสดใหม่ มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารที่ผสานความเป็นตะวันออก และตะวันตกได้อย่างลงตัว ซึ่งเมนูแนะนำก็จะมีตั้งแต่มันหวานอบผักและสมุนไพรต่างๆ (195 บาท), สกินนี่รอแยลที่เป็นขนมปังปิ้งแซลมอนรมควันกับไข่ลวก ราดซอสโยเกิร์ตมัสตาร์ดน้ำผึ้งสูตรพิเศษของทางร้าน(280 บาท)

อาหารลดน้ำหนัก การดูแลสุขภาพ

กินคลีนต้องลองกับ 5 ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่พร้อมเดลิเวอรี่ถึงหน้าบ้าน

5 อาหารเพื่อสุขภาพ สร้างสุขภาพที่ดีเพื่อวันใหม่

วิธีการดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงนั้น นอกจากการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การรู้จักเลือกรับประทานอาหารก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุขภาพดีได้ การยึดอาหารหลัก 5 หมู่ และเพิ่มความสำคัญของการกินอาหารแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด เพราะอาหารบางชนิดก็เป็นยาดีของสุขภาพร่างกาย ที่ทำให้เรามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย
อาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารคลีน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ใส่ใจสุขภาพหรือสายเฮลตี้ สร้างความสมดุลในร่างกาย เพียแค่เรารู้จักเลือกสรร และนำไปปรุงให้ถูกวิธี อาหารเพื่อสุขภาพเหล่านี้ก็จะกลายเป็นมื้อที่อร่อยได้ วันนี้ขอแนะนำ 5 อาหารเพื่อสุขภาพให้ไปเลือกทานกันต่อ

5 อาหารเพื่อสุขภาพ เมนูทางเลือกเอาใจคนรักสุขภาพ

1. ควีนัว
ใครที่เป็นสายกินคลีน หรือรักสุขภาพ ต้องรู้จักกับธัญพืชที่ชื่อว่า “ควินัว อย่างแน่นอน เป็นพืชตระกูลเดียวกับหัวบีท ผักโขม มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” เพราะถือเป็นแหล่งเส้นใยอาหารชั้นดี
ประโยชน์ของควินัว
• ควินัว 1 ถ้วยจะมีปริมาณเส้นใยอาหารประมาณ 5 กรัม เป็นเส้นใยชนิดไม่ละลายน้ำที่จำเป็นต่อระบบการย่อยอาหารในร่างกาย
• ควินัวเป็นพืชที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมอาหาร รวมไปถึงเหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

2. ถั่วอัลมอนด์
เป็นถั่วที่มีคุณค่าทางสารอาหารต่อร่างกายสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆ สามารถนำมารับประทานแทนอาหารมื้อหลัก หรือรับประทานแทนขนมกินเล่นก็ได้
ประโยชน์ของอัลมอนด์
• อัลมอนด์มีประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย รับประทานเป็นอาหารว่างจะช่วยลดการกินจุกกินจิกและลดดความหิวระหว่างมื้ออาหาร
• เมื่อรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำทุกวันจะช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในอัลมอนด์ 1 เมล็ดนั้นให้พลังงานเพียงแค่ 7 แคลลอรีเท่านั้น

3. ปลาแซลมอน
จัดเป็นปลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในหมู่ คนไทยและชาวญี่ปุ่น นิยมนำมาทำทั้งซูซิและซาชิมิ เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่ถูกปากแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ประโยชน์ของปลาแซลมอน
• ปลาแซลมอนเป็นโปรตีนที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย
• โอเมก้า3 ในปลาแซลมอนจะช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย(LDL)และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลตัวดี(HDL)

4. อกไก่
อกไก่ถือเป็นของโปรดของสายเฮลตี้เลย เพราะ เนื้อไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่ให้พลังงานสูงชนิดหนึ่ง อุดมไปด้วยโปรตีน ย่อยง่าย มีสัดส่วนไขมันต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อส่วนอกนั้นแทบไม่มีไขมันปนอยู่เลย จึงนิยมทำมาปรุงอาหารสำหรับดูแลสุขภาพจำพวกอาหารคลีน อกไก่เหมาะสำหรับปรุงอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักไม่ว่าจะเป็น สเต็กไก่ โดยการนำไปหมักและย่าง ทานคู่กับผักเครื่องเคียงต่างๆก็อร่อยแบบสุดๆ
ประโยชน์ของอกไก่
• อกไก่ให้โปรตีนสูงแต่พลังงานต่ำ
• โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยซ่อมแซมอวัยวะส่วนที่สึกเหรอในร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

5. ไข่ไก่
การรับประทานไข่ไก่เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารจะช่วยให้อิ่มยาวนานขึ้น และรับประทานอาหารได้น้อยลง
ประโยชน์ของไข่ไก่
• ไข่ไก่เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม
• ไข่ไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

ใครที่กำลังมองหาอาหารสุขภาพเพื่อควบคุมน้ำหนักหรือสร้างกล้ามเนื้อ ลองเลือก 5 อาหารสุขภาพนี้ นำไปประกอบเป็นเมนูสุขภาพช่วยเสริมสร้างร่างกาย นอกร่างหุ่นดีแล้วยังมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

5 อาหารเพื่อสุขภาพ สร้างสุขภาพที่ดีเพื่อวันใหม่

หลัก8ประการของการดูแลรักษาสุขภาพ

๑. รับประทานอาหาร  อย่างถูกต้องเหมาะสม

อาหารเช้า สำคัญมากเพราะช่วงเช้าร่างกายขาดน้ำตาล ถ้าไม่รับประทานอาหารเช้าจะเกิดภาวะขาดน้ำตาลซึ่งจะมีผลทำให้ความคิดตื้อตันไม่ปลอดโปร่ง วิตกกังวล ใจสั่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด โมโหง่าย มื้อเช้ารับประทานได้เช้าที่สุดยิ่งดี (ระหว่างเวลา ๖.๐๐ – ๗.๐๐ น.) เพราะท้องว่างมานาน หากยังไม่มีอาหารให้ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำข้าวอุ่น ๆ ก่อน ควรทานข้าวต้มร้อน ๆ จะช่วยให้ง่ายต่อการขับถ่ายอุจจาระ ถ้าจำเป็นต้องรับประทาน(สาย) ใกล้อาหารมื้อกลางวัน อย่ารับประทานมาก 

อาหารเพล (อาหารมื้อกลางวัน) ควรเป็นอาหารหนัก เช่น ข้าวสวย พร้อมกับข้าวครบ ๕ หมู่ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมาก และควร    รับประทานให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย 

    ๒. ขับถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะ สม่ำเสมอทุกวัน

๓. ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม กับฤดูกาล เช่น หน้าหนาวก็ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ สวมหมวก ถุงมือ ถุงเท้าขณะนอนตอนกลางคืนควรห่มผ้าปิดถึงอก

๔. ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายกลางแจ้งทุกวัน

๕. รักษาความสะอาดของสถานที่พักอาศัย เพื่อช่วยให้สิ่งแวดล้อมดี อากาศดี

๖. รักษาอารมณ์ให้ปลอดโปร่ง แจ่มใสตลอดทั้งวัน และอย่าลืมนั่งสมาธิทุกวัน

๗. พักผ่อนให้เพียงพอ เหมาะสมกับเพศ และวัยไม่ควรนอนดึกเกิน ๒๒.๐๐ น. ติดต่อกันหลายวัน

๘. มีท่าทาง และอิริยาบถที่ถูกต้องเหมาะสม ในการทำงานในชีวิตประจำวัน

หลัก 8 ประการของการดูแลรักษาสุขภาพ

วิธีดูแลสุขภาพ